สมัครหวยออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ผีโพง


ผีโพง






ลักษณะ : เป็นคนที่โดนผีโพงเข้าสิง และจะเข้าสิงร่างนั้นตลอด คนที่โดนผีโพงสิงมักจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองโดนสิง ผีโพงนั้นจะมีรูปร่างเหมือนคนทุกประการ แต่มีแสงไฟออกจากจมูก จะมีอยู่สามสี คือ สีแดง สีม่วง และสีเขียว

อาหาร : ผีโพงจะชอบกินเมือกกบ เมือกเขียด แล้วก็คลายทิ้ง กบ เขียดนั้นก็จะตาย

เรื่องเล่า : คนในสมัยก่อนเล่าต่อๆกันมาว่า ก่อนออกไปหากิน ผีโพงจะเอาจมูกไปเสียดสีกับบันไดบ้านให้แดงก่อนออกไปหากิน พอใกล้สว่างก็จะกลับมาที่บ้านเหมือนเดิม คนที่มีคาถาอาคมสมัยก่อน ถ้าสงสัยว่าใครเป็นผีโพง ก็จะร่ายคาถา แล้วกลับบันไดบ้านของผีโพง เมื่อผีโพงกลับมาที่บ้าน ก็เห็นว่าบ้านเป็นของตนเอง แต่บันไดไม่ใช่ มันก็เดินวนเวียนอยู่หน้าบ้าน เข้าบ้านไม่ได้ จนรุ่งเช้า มีคนมาพบเห็นเข้าก็จะรู้ว่าคนๆนั้นเป็นผีโพง คนที่เป็นผีโพงก็จะอับอาย หรืออาจหลบหนี้ไปอยู่ที่อื่น แต่ถ้าผีโพงรู้ว่าใครแกล้งมัน มันก็จะอาฆาตแค้นเมื่อคนที่ร้ายมัน พลังอ่อนลง มันก็จะกลับมาแก้แค้น โดยเอาก้านกล้วยแม่หม้ายพุ่งข้ามหลังคา

ผีโพง จะเป็นตอนกลางคืน ช่วงที่ชาวบ้านพบเห็นบ่อย จะอยู่ในช่วงฤดูฝน ช่วงตอนฝนตก มักจะเห็นแสงสว่างสีแดง ม่วง เขียว ที่จะสว่างแถวกลางทุ่งนาแล้วดับ แล้วก็ไปสว่างแล้วดับอีก ไปเรื่อยๆ บางก็เล่าว่าจะมีแสงไฟตกจากจมูก เหมือนหยดน้ำด้วย ถ้ามีคนตามรอยผีโพงไป ก็จะเจอกับ กบ เขียด ที่จะนอนตายตัวแข็งตามท้องนา ถ้าหากว่าคนไปเจอกับผีโพงเข้า แล้วเห็นว่าผีโพงนั้นเป็นใคร ผีโพงมักจะบอกว่า “มันเป็นวิบากกรรมของมัน ที่ต้องมาชดใช้กรรมแบบนี้” และอ้อนวอนอย่าให้บอกใคร ผีโพงก็จะเสก ใบไม้ ก้อนหิน ก้อนอิฐ หรือถ่านมี่ (ถ่านมี่ คือถ่านสีดำ ที่ใช้ก่อกองไฟในครัว) ให้กล้ายเป็นทองคำ แล้วเอาจ้างคนที่พบเห็น เพื่อที่จะไม่ให้บอกใคร ถ้าไม่รับปาก หรือไม่รับทองคำนั้นมา ผีโพงก็จะทำร้าย หรือทำให้เรากลายเป็นผีโพงเหมือนมัน หรือใต้ถุนบ้าน ทำให้คนที่อยู่ในบ้านเจ็บป่วย หรือตายหมดทั้งบ้าน
เมื่อรับทองคำนั้นมาแล้ว ตอนเช้าทองคำนั้นก็จะกลายเป็นใบไม้ ก้อนหิน ก้อนอิฐ หรือถ่านมี่ เหมือนเดิม คนที่พบเห็นจะต้องเก็บนี้เป็นความลับ แต่ถ้าจะบอกกับผู้อื่นก็ห้ามพูดชื่อ ว่าใครเป็นผีโพง ถ้าเกิดพูดชื่อออกไป ผีโพงจะมีญาณรับรู้ได้ทันทีว่าเราเอาความลับของมันไปบอกคนอื่น มันก็จะตามมาทำร้ายเราที่บ้าน โดยใช้ ก้านกล้วยแม่หม้าย (ก้านกล้วยแม่หม้าย คือก้านกล้วยที่เอาใบตองออกแล้ว เหลือใบตองส่วนปลายไว้นิดหน่อย) พุ่งข้ามหลังคา หรือใต้ถุนบ้าน

ฉะนั้นในคนสมัยก่อนมักจะบอกให้เราฟันก้านกล้วย ออกสอง 2 ท่อน หรือหลายๆท่อน เพื่อที่จะไม่ให้ผีโพงนั้นนำไปใช้ได้อีก

ชาวบ้านพบเห็นผีโพงครั้งสุดท้ายในช่วงปี พ.ศ. 2514 หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นอีก

แหล่งข้อมูลจาก ชาวบ้านตำบนแม่นาวาง อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่

ผีโพง เป็นผีประเภทเดียวกับผีกระสือ เป็นผีพื้นบ้านทางภาคเหนือ ผีโพงเกิดจากว่านชนิดหนึ่ง เรียกว่าว่านผีโพง ซึ่งมีสีขาว รสฉุนร้อน เมื่อแก่จะมีธาตุปรอทลงกิน ทำให้เกิดแสงส่องสว่างแบบแมงคาเรือง

เมื่อจะออกหากิน ผีโพงจะออกไปในรูปลักษณ์รูปร่างหน้าตาเหมือนกับเจ้าของว่าน ไม่ได้ถอดหัวกับไส้เหมือนกระสือ มาในรูปร่างกายมนุษย์ทุกอย่าง แต่จะมีดวงไฟเล็กๆ สว่างเรืองๆ อยู่ที่ปลายจมูก และหยดลงเป็นหยดๆ เหมือนหยดน้ำ ฝีโพงจะออกหากินตามหนองน้ำ หรือทุ่งนาหลังฝนตก อาหารของผีโพงคือกบ และเขียด ซึ่งผีโพงจะกินด้วยการจับมาดูดเอาเมือกกินทีละตัวๆ

โดยปกติ ผีโพงจะกลัวคน และหลบหน้าคน ไม่ยอมให้ใครมาเห็น หรือจำได้ว่าตนเป็นใคร หากมีคนบังเอิญมาพบ คนผู้นั้นไม่ได้ทำอันตราย หรือวิ่งหนีไป ผีชนิดนี้จะเข้ามาเจรจา บ้างก็เสกก้อนหินเป็นเหรียญ เสกใบไม้เป็นธนบัตร แล้วเอามาให้คนๆนั้น แล้วบอกว่าอย่าบอกให้ใครรู้ว่าตนเองเป็นใคร แต่กลับไปบ้านของพวกนั้นจะกลายเป็นสภาพตามเดิม แต่ถ้าหากใครทำให้เจ็บใจ หรือนำเรื่องไปบอกชาวบ้านว่าตนเป็นใคร ผีโพงจะเอาคานของแม่ม่ายพุ่งข้ามหลังคาบ้าน แล้วในทีสุด คนคนนั้นก็จะพบกับความพินาศวอดวาย หรือไม่งั้น ก็จะนำเอาก้านกล้วยที่ถูกตัดเอาใบออกไปหมดแล้ว พุ่งข้ามหลังคาบ้าน คนภาคเหนือสมัยก่อนเมื่อตัดใบกล้วยนำไปใช้แล้วจึงมักจะสับก้านกล้วยให้เป็นชิ้นเล็กๆแล้วนำไปทิ้ง หรือไม่งั้นก็จะถ่มน้ำลาย ใส่ในหม้อน้ำดื่ม บ้านคนที่เห็นหน้าตนและนำไปบอกคนอื่น หรือทำร้ายตนเอง เพื่อให้บุคคลผู้นั้นกลายเป็นพีโพงต่อไป

หากมีคนทราบว่าตนเป็นใคร จะอยู่ได้ไม่เกินสามวัน จะมีตุ่มน้ำหนองพุพองทั่วร่างกาย แล้วสิ้นใจไปที่สุด

ผีโพง ชอบกินของสดของคาว เช่น คาวจากปลาสด แต่ที่ชอบมากที่สุดคือ คาวจากเขียด ผีโพงจะอยู่ในเรือนของคนที่เป็นร่างสื่อ เมื่อจะออกหากินจะเข้าสิงคนที่เป็นร่างสื่อแล้วบังคับให้ออกหากิน ส่วนมากจะออกหากินในเวลากลางคืน มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า หากอยากรู้ว่าผู้ใดเป็นร่างสื่อของผีโพง ให้สังเกตดูที่ปลายจมูกของบุคคลนั้น ถ้ามองดูห่างๆ จะเห็นเป็นสีแดงมากกว่าคนทั่วไป ถ้าดูใกล้ๆ จะเห็นมีเส้นเลือดแดงขวักไขว่ ถ้าร่างสื่อเป็นหญิงนอกจากปลายจมูกจะแดงแล้ว ปลายผมยังแห้งงออีกด้วย

ถ้าวัดมีงาน ผู้ดูแลหอศาลจะเป็นคนนำพานข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียนไปบอกกล่าวให้ผีเสื้อวัดได้รับรู้ เพื่อขอให้ช่วยดูแลงานให้เรียบร้อย ไม่ให้เกิดเรื่องร้าย หรืออย่าให้มีอุปสรรคใดๆ ระหว่างที่วัดมีงาน เช่น งานปอยหลวง (งานฉลอง) จะกี่วันก็ตาม ผู้ดูแลจะเป็นผู้จัดสำรับอาหารคาวหวานจากวัดไปถวายโดยตั้งไว้บนหอศาลทุกวัน

ผีโพงจะออกหากินในเวลากลางคืน ถ้าเป็นฤดูฝนโอกาสดีจะออกหากินบ่อย ส่วนมากจะเป็นคืนข้างแรมหรือคืนเดือนมืด เวลาประมาณหลังเที่ยงคืนไปแล้ว เมื่อชาวบ้าน และคนในครอบครัวนอนหลับกันหมดแล้ว ผีโพงจะเข้าสิงร่างสื่อแล้วบังคับให้ลงจากเรือน โดยคนที่เป็นร่างสื่อจะรู้สึกตัวบ้าง ไม่รู้สึกตัวบ้าง เมื่อลงไปข้างล่างจะเอาจมูกถูกับเสาเรือนเพื่อให้เกิดพลังแสงก่อนแล้วจึงเดินออกไปกลางทุ่งนา ที่ปลายจมูกจะมีแสงสีแดงลักษณะคล้ายไฟน้ำตกสาดแสงออกมาเพื่อส่องหาเขียด เมื่อพบเขียดจะจับขึ้นมาจูบกินคาว เมื่อคาวหมดก็จะทิ้งไปแล้วหาตัวใหม่ต่อ จับไปจูบไปจนกว่าจะอิ่ม ใช้เวลาคืนหนึ่งประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าคืนไหนไม่มีสิ่งรบกวนจะใช้เวลาหากิน 2-3 ชั่วโมง แล้วจึงกลับขึ้นเรือนและเข้านอน โดยคนที่เป็นร่างสื่อจะรู้สึกเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นคล้ายฝันไป มีคนเล่าว่าเวลาเช้ามืดถ้าออกไปสำรวจดูบริเวณที่เราเห็นแสงของผีโพงในคืนที่ผ่านมา จะเห็นเขียดนอนตายตามคันนาเป็นระยะๆ ในลักษณะตัวเหยียดยาว

คนที่มีเรือนใกล้กับเรือนของคนที่เป็นผีโพงเล่าให้ฟังว่า ได้เคยแอบดูพฤติกรรมของคนที่เป็นผีโพงมาโดยตลอด จึงได้ทดลองวิธีการแกล้งผีโพงตามที่คนโบราณบอกไว้ว่า คืนไหนที่มีฝนตกปรอยๆ เขาจะแอบดูตั้งแต่คนที่เป็นร่างสื่อลงจากเรือนไปที่ทุ่งนา เขาจึงไปยกบันไดเรือนของคนที่เป็นผีโพง กลับเอาข้างล่างขึ้นข้างบน หรือสับเปลี่ยนบันไดกับเรือนอื่นที่อยู่ใกล้กัน (การยกบันไดสมัยโบราณไม่ยาก เพราะบันไดทำด้วยไม้ไผ่ และมีขั้นบันได้ 3-5 ขั้นเท่านั้น จึงมีน้ำหนักเบา ยกย้ายได้ง่าย) เมื่อผีโพงกลับจากการหากินจะขึ้นเรือนไม่ได้ เพราะเห็นว่าตัวเรือนเป็นของร่างสื่อแต่บันไดไม่ใช่ เมื่อตามไปดูบันไดเรือนที่อยู่ใกล้กัน เห็นว่าบันไดใช่ แต่ตัวเรือนไม่ใช่ ร่างสื่อของผีโพงจึงไม่กล้าขึ้นเรือน จะอยู่ใต้ถุนเรือนรอจนถึงเช้า เมื่อสว่างแล้วจึงทำทีถือไม้กวาด กวาดตามลานบ้าน เพื่อกลบเกลื่อนไม่ให้คนในครอบครัวรู้ แต่การแกล้งผีโพงต้องระวังตัวให้ดี เพราะผีโพงจะอาฆาตจองเวร

ครอบครัวใดที่มีสมาชิกในครัวเรือนเป็นผีโพง คนในครอบครัวเดียวกันจะไม่ค่อยรู้ เล่ากันว่าก่อนที่ผีโพงออกหากิน จะสะกดจิตทุกคนในครอบครัวให้หลับเป็นตาย (หลับสนิท) จนกว่าผีโพงจะกลับเรือน คนที่รู้เห็นจึงเป็นคนนอกครอบครัวนั้น

ในระหว่างที่ผีโพงกำลังออกหากินเขียด ถ้ามีใครที่ไปหาปลาพบเห็นเข้า ท่านห้ามเข้าไปใกล้ หรือถ้าเห็นหน้าและรู้จักคนที่เป็นร่างสื่อของผีโพง ก็อย่าได้ทักหรือเรียกชื่อเขา ให้หลีกไปเสีย เพราะอาจจะถูกผีโพงทำร้ายเอาได้ ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังว่า มีคนหาปลาไปพบผีโพงในระยะใกล้จนเห็นหน้าและรู้ว่าเป็นใคร ผีโพงนั้นได้เข้ามาขอร้องอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร โดยขอร้องอย่าได้บอกให้คนอื่นรู้ว่าเขาเป็นผีโพง พร้อมกับควักสิ่งของที่ติดตัวไป เช่น แหวน เป็นต้น ให้แก่คนที่ไปพบ เพื่อเป็นค่าจ้างไม่ให้ไปบอกคนอื่น

ถ้าใครทำให้ผีโพงโกรธ เพราะรู้ความลับของเขาแล้วไปเล่าให้ผู้อื่นฟัง หรือเข้าไปทักชื่อของร่างสื่อที่กำลังออกหากิน ผีจะอาฆาตและจองเวร โดยผีโพงจะใช้ก้านของใบกล้วย ที่มีคนฉีกเอาใบออกแล้วทิ้งก้านไว้ตามสวน พุ่งข้ามหลังคาเรือนของคนที่ผีโพงโกรธ หลังจากนั้นไม่นานคนนั้นจะมีอาการเหงาซึม ร่างกายซูบผอม และตายในที่สุด ด้วยเหตุนี้คนแต่ก่อน หรือแม้แต่คนในปัจจุบันตามชนบท เมื่อฉีกใบกล้วยออกจากก้านแล้ว จึงตัดให้เป็นท่อนๆ ก่อนจะทิ้ง จะไม่ทิ้งไว้ทั้งก้านอย่างนั้น เพราะกลัวว่าผีโพงจะนำไปใช้พุ่งข้ามหลังคาเรือน บางท้องถิ่นเชื่อว่าถ้าผีโพงโกรธใคร จะใช้ไม้คานพุ่งข้ามหลังคาเรือน คนที่เป็นศัตรูของผีโพงที่อยู่ในเรือนนั้น จะไม่สบายและสุดท้ายก็จะตาย

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2555

แห่ตีเลข! ลูกหมูประหลาดหัวคล้ายช้างที่เชียงราย



 ชาวบ้านพากันไปดูลูกหมูประหลาดหัวเหมือนช้างใน จ.เชียงราย พร้อมทั้งขอเลขเด็ด เชื่อให้โชคลาภ

          วันนี้ (13 กันยายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 49 บ้านต้นม่วง ตำบลป่าก่อดำ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นบ้านของนายเฉลิม และนางบัวจันทร์ อารมดี พบซากลูกหมูประหลาดที่มีหัวลักษณะเหมือนช้าง โดยมีงวงและมีช่องดูดน้ำที่บริเวณปลายงวงคล้ายกับช้าง

          โดยนายเฉลิม เจ้าของบ้าน เล่าว่า ตนเลี้ยงหมูแม่พันธุ์ ไว้จำนวน 3 ตัว ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา หมูแม่พันธุ์ตกลูกออกมาครอกละ 10-12 ตัว ปรากฏว่ามีแม่หมูตัวหนึ่งตกลูกออกมามีลักษณะเหมือนช้าง แต่มีอายุอยู่ได้เพียง 1 วัน ก็ตาย ตนจึงนำไปใส่ขวดโหล พร้อมนำดอกไม้และธูปเทียนบูชา เพราะเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคลและจะให้โชคลาภแก่ครอบครัว



ทั้งนี้ ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางไปดูเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งจุดธูปเทียนบูชาอธิษฐานขอเลขเด็ดกันอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะบ้านเลขที่ และจำนวนลูกหมูทั้งครอก รวมทั้งวันเกิดของลูกหมูประหลาดด้วย

วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

หวยเด็ด เลขเด็ด หลวงพ่อปากแดง 1 ก.ย. 55

กลับมาแล้วชาวสมาคมคนดวงเฮง หวยเด็ด เลขเด็ดหลวงพ่อปากแดงงวดนี้ งวดวันที่ 1กันยายน2555 เลขเด็ดงวดนี้ม้าสีหมอก เจ้าแม่ตะเคียนทอง ทำนายฝัน เลขเด็ด เลขเด็ดอาจารย์ดัง ข่าวเลขเด็ด ตรวจหวย

             หวยเด็ดหลวงพ่อปากแดง 1 กันยายน 2555 งวดที่แล้วชาวสมาคมคงได้เฮยกสมาคมกันครับ กับเลขเด็ดของทางเว็บ งวดนี้เผลอแปปเดียวก็ใกล้จะถึงปลายปีอีกแล้วรวดเร็วจริงๆ
            ช่วงนี้อยู่ในช่วงเข้าพรรษาอยากให้แฟนๆชาวสมาคมคนดวงเฮง หมั่นทำบุญ ทำนุบำรุงศาสนากันนะครับ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับตัวเราเองหากใครมีโชคกับเลขเด็ด ก็แบ่งไปทำบุญด้วยครับ การทำบุญไม่จำเป็นต้องทำที่วัดเสมอไปครับ ทำได้ทุกโอกาส และอย่าลืมทำบุญกับ "พระในบ้าน" ด้วยครับ จะเป็นมหามงคลกับชีวิตเราอย่างยิ่ง

หวยเด็ดงวดนี้
หวยเด็ด เลขดังจากหน้าหนังสือพิมพ์ เลขดังตามกระแส

หวยงวดนี้ 1กันยายน 2555 ให้

ชุดเลขเด็ด หวยเด็ดบน (น้อยชุด)

854 542 426 315 305

42 43 44 45 49

หวยเด็ด เลขเด็ดงวดนี้ 1กันยายน 55
เลขวิ่ง 4,5
สถิติความแม่น


วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เต่าเต้นใบ้หวย ให้เลขเด็ดถูกทั้งหมู่บ้าน 2 งวดติด




ชาวบ้านชัยภูมิแห่ไปดูเต่าเต้นใบหวย เอาไปตีเลขเด็ดถูกทั้งหมู่บ้านติดต่อกัน 2 งวด ถ้าใครมาขอหวยเต่าไม่โผล่หัวแสดงว่าไม่มีโชค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (15 ส.ค.)ที่บ้านของนางยุพารัตน์ ปาเป้า อายุ 37 ปี เลขที่ 168 หมู่ 5 บ้านโนนตาล ต.บ้านเขว้า อ.เขว้า จ.ชัยภูมิ พบเต่ามีนิสัยชอบเต้น โดยนางยุพารัตน์ กล่าวว่า ตนป่วยต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล หลังแพทย์ให้กับมารักษาตัวที่บ้านเมื่อ 2 เดือนก่อน ก็คิดว่าจะซื้อเต่ามาปล่อยเพื่อทำบุญ ขณะนำเต่าไปปล่อยพร้อมกองผ้าป่าซึ่งมีขบวนรำวง เต่าตัวนี้ได้โผล่หัวออกมาชูแขนขาและหางจนสุดตัว ถือว่าเป็นเรื่องแปลกเพราะปรกติเต่าเมื่ออยู่ในมือคนจะหดหัวอยู่แต่ในกระดอง ไม่ยอมโผล่หัวออกมาเด็ดขาดตามสัญชาติญาณสัตว์ที่ต้องหลบภัย

“แต่ก็มีชาวบ้านหลายคนที่มาร่วมแห่กองผ้าป่าไปวัด บอกว่าน่าจะเป็นเต่าเจ้ามาให้โชค และขอให้เก็บเลี้ยงเต่าตัวนี้ไว้ที่บ้านเพื่อขอโชคลาภต่อที่บ้านจะดีกว่า และนำไปตีเป็นเลขเด็ดขอหวยถูกกันจำนวนมากทั้งหมู่บ้าน มาแล้วต่อติดกันถึง 2 งวด และหากชาวบ้านคนไหนมาขอหวยแล้วเต่าออกมาเต้นก็แสดงว่าจะถูกหวย หากคนไหนเต่าไม่โผล่หัวออกมาก็ห้ามซื้่อเด็ดขาด” นางยุพารัตน์ กล่าว

วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ชาวบ้านสุพรรณฯ แห่ดูต้นพญาเศรษฐีวิลสันออกดอกตรงวันแม่-เจ้าของเชื่อให้โชคลาภ



เมื่อ 13 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บ้านเลขที่ 5 หมู่ที่ 6 ตำบลสนามชัย อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ชาวบ้านแห่เดินทางดูต้นพญาเศรษฐีวิลสันซึ่งปลูกอยู่ในบ่อวงกลมต้นสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ที่ออกดอกสีขาวเป็นจำนวนมาก และยังออกดอกและบานในช่วงวันแม่ เจ้าของเชื่อเป็นต้นไม้ที่ให้โชคลาภแก่ผู้ปลูกและเป็นศิริมงคลแก่บ้านทำให้อยู่ร่วมเย็นเป็นสุข ลูกๆ รายล้อมเต็มบ้าน

นางสาลี่ เล็กน้อย อายุ 69 ปี เจ้าของบ้านเปิดเผยว่าตนเองกับสามีที่เสียชีวิตไปแล้วก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมทำสวนมะม่วงขยายพันธ์กิ่งมะม่วงขายมากว่า 50 ปี และทำไม้ประดับอย่างต้นเศรษฐีวิลสันเพื่อจำหน่ายเป็นรายได้เสริม โดยการเลี้ยงในโรงเรือน ซึ่งมีต้นพ่อแม่พันธุ์เศรษฐีวิลสันกว่า 500 ต้น ปลูกในบ่อวงกลมขนาด 60 ซม.

ต่อมาพบว่า มีต้นเศรษฐีวิลสันจำนวน 2 ต้น ที่มีลักษณะไม่เหมือนทั่วไป คือใบจะค่อนข้าวเรียวยาว สีเขียวเข้ม ใบหนาแข็ง ขยายพันธ์ไม่เหี่ยวและสามารถตั้งต้นฟื้นตัวได้รวดเร็ว ใบยังมีความมันวาว เป็นลักษณะเด่น ซึ่งได้แยกต้นไม้ 2 ต้นนี้ออกมาเพื่อแยกเลี้ยงโดยตั้งชื่อว่าพญาเศรษฐีวิลสัน

ล่าสุด เมื่อ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแม่ ทางด้านลูกหลานเดินทางมาร่วมสังสรรค์ที่บ้านและมอบของขวัญวันแม่พบว่าต้นพญาเศรษฐีวิลสันที่ปลูกเลี้ยงไว้ออกดอกต้นแรก 15 ดอก ต้นที่สองออกดอก 16 ดอก ในคราวเดียวกัน ซึ่งชาวบ้านทราบข่าวต่างเดินทางมาขอดูเป็นจำนวนมากบ้างเชื่อว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ บ้างเชื่อว่าให้โชคลาภ ซึ่งเรื่องนี้ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะเศรษฐีวิลสันปรกติจะออกดอกเพียงที่ละ 1 ดอกหรือ 2 ดอก มากสุดก็เพียง 3 ดอกแต่คราวนี้ออกมากถึง 15-16 ดอกในคราวเดียว และตรงกับวันแม่ด้วย ตนปลื้มใจที่สุดตั้งใจจะเก็บต้นนี้ไว้โดยจะไม่ขายให้ใครและจะขยายพันธุ์เพื่อแบ่งให้ลูกหลาน เพื่อนำไปปลูกเพื่อเป็นศิริมงคลก่อนจะได้ปกป้องรักษาลูกหลานให้แคล้วคลาดปลอดภัย นางสาลี่กล่าว

วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมแจก New iPad ทายเลขเด็ดประจำงวดที่ 16/8/2555




ใครมีเลขเด็ดรีบมาโพสกัน....อย่ารอช้า

ท่านที่ทายถูก เลข 2 ตัวบนหรือล่าง แจกบัตรเติมเงินมูลค่า 1,000 บาท
ท่านที่ทายถูก เลข 3 ตัวท้าย แจก New iPad 1 เครื่อง รุ่น Wi-Fi + 4G 16GB. เลือกสีได้ ประกันศูนย์ Dtac

กติกา
-ให้ท่านทายผลเลข 3 ตัว ท้ายรางวัลที่ 1 และเลข 2 ตัวบนหรือล่างก็ได้
-ทายได้คนละ 2 เลข พร้อมบอกที่มาของเลขเด็ด เช่น 124**ไปถูที่ต้นไม้มา**และ 28*อายุแฟน* เป็นต้น
-ทายผลได้ที่โพสนี้เท่านั้น [เขียนความคิดเห็น]

-ปิดรับทายผล 15:00น. 16/08/2555 นี้

**ใครทายเกิน 2 เลขไม่ได้รับของรางวัลนะครับ**บอกที่มาของเลขเด็ด้วยนะครับ**เฮงๆครับ** ^^


วิธีรับของรางวัล www.lotto666.com
ให้ท่านเข้าไปที่หน้านี้ http://www.facebook.com/ballplusz
แล้วใช้ user ของท่านส่งข้อความมาว่าต้องการเติมเงินเข้ามือถือหรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร
-ถ้าต้องการเติมเงินก็แจ้งเบอร์โทร และ ระบบของ SIM เช่น One2Call , Dtac , True เป็นต้น
-หรือถ้าต้องการให้โอนเงินเข้าธนาคาร ก็แจ้งข้อมูลบัญชีธนาคารให้ที่ต้องการให้โอนให้ พร้อมเบอร์มือถือ (จะส่ง SMS แจ้งเมื่อโอนเงินให้ผู้ที่ถูกรางวัลแล้ว)
**เมื่อทางเราได้เราได้รับข้อความแล้ว ทางเราจะดำเนินการให้ภายใน 24 ชั่วโมง**


นางฟ้า มาเฟีย ? วิทยาลัยพณิชยการธนบุรี
077 ลูกชายเจ้านายบอกมา
77 ตัดเล่น 2 ตัวด้วย
โพสเมื่อ 11 สิงหาคม เวลา 14:44 น.
-โอนเงินแล้ว-


Sittinon Teepswang
416 ฝันเมื่อวาน
77 ตีเลขงูสิงที่ออกข่าวว
โพสเมื่อ 11 สิงหาคม เวลา 11:03 น.


Kaiser TheEmperor Ofdarkness
77
149
โพสเมื่อ 10 สิงหาคม เวลา 16:35 น.


ปฏิวัติ ปฏิสังข์ ? ทำงานที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุีรีรัมย์
77
843
โพสเมื่อ 10 สิงหาคม เวลา 16:58 น.


Aye Vitoon Viriyatoon ? Bangkok, Thailand
107 บ้านเลขที่
77 เลขท้ายมือถือ
โพสเมื่อ 11 สิงหาคม เวลา 0:23 น.


เอฟฟี่ เอฟเอฟ
963 77 ชอบเลขสองตัวนี้อะ
โพสเมื่อ 11 สิงหาคม เวลา 16:06 น.


Mondhol Patipan ? ACS Assumption College Sriracha
777 พ่อบอก
77 พ่อก็บอก
โพสเมื่อ 10 สิงหาคม เวลา 22:09 น.



ปรับ!3หมื่น'เวียดเจ็ทแอร์'โชว์หวิวบนเครื่อง




ปรับ 3 หมื่นบาท 'เวียดเจ็ท แอร์' ของเวียดนาม กรณีโปรโมทสายการบินด้วยการจัดโชว์สาวสวยสวมชุดบิกินี่เต้นบนครื่อง
                         9 ส.ค.55 สำนักงานบริหารการบินพลเรือนของเวียดนามแจ้งว่า สายการบิน 'เวียดเจ็ท แอร์' สายการบินต้นทุนต่ำ ถูกลงโทษให้จ่ายค่าปรับ 20 ล้านด่องเวียดนาม หรือเกือบ 29,800 บาท เนื่องจากจัดโชว์เต้นฮูล่าฮูล่าโดยสาวสวยราว 10 คนที่สวมชุดบิกินี่บนเที่ยวบินขณะเดินทางจากเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ไปยังเมืองนา ตรัง เมื่อหลายวันก่อนเพื่อโปรโมทเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของเส้นทางนี้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดข้อบังคับที่ห้ามจัดการแสดงใดๆโดยไม่ได้รับอนุญาตบนเที่ยวบิน


                         การลงโทษปรับครั้งนี้มีขึ้นหลังจากผู้โดยสารบนเที่ยวบินดังกล่าวได้ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพไว้และนำไปโพสในอินเตอร์เน็ต และทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเวียดนามอย่างกว้างขวางถึงความไม่เหมาะสม

วันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อึ้ง! พบแมงมุมอาศัยอยู่ในหูมาแล้ว5วัน



(9ส.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน แผนกศัลยกรรมหู คอ จมูก โรงพยาบาลกลางฉางซา มณฑลหูหนาน ประเทศจีน  พบหญิงสาวมีอาการคันในรูหู ตรวจพบแมงมุมอาศัยอยู่ในช่องหูมาแล้วกว่า5วัน

ตามรายงาน นางสาวหลี่มีอาการคันหูซ้าย รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอะไรอยู่ในหูของเธอ จนกระทั่งเช้าวันที่8ส.ค.ที่ผ่านมา นางสาวหลี่เดินทางมาโรงพยาบาลกลางฉางซา แผนกศัยกรรมหูคอจมูก แพทย์ตรวจพบว่าในช่องหูของเธอนั้นมีแมงมุมซึ่งยังมีชีวิตอาศัยอยู่ในช่องหูของเธอ ซึ่งไม่สามารถใช้เครื่องมือผ่าตัดโดยตรงได้ เนื่องจากตามสันชาตญาณแมงมุมอาจจะยิ่งหนีเข้าไปภายในช่องหูลึกขึ้นกว่าเดิม

เมื่อนางสาวหลี่ได้ยินดังนั้นเกิดอาการจิตตกและกระวนกระวายเป็นอย่างมาก แพทย์และพยาบาลพยายามปลอบใจเกลี้ยกล่อมให้นางสาวหลี่สบายใจขึ้น พร้อมทั้งหาวิธีการรักษาอย่างปลอดภัย โดยแพทย์จะใช้น้ำเกลือหยอดเข้าในช่องหูข้างซ้าย เพื่อให้น้ำเกลือพาแมงมุมออกมาจากหู

ในที่สุดแมงมุมลอยตัวอยู่ในน้ำถูกนำออกมาจากช่ิองหูได้สำเร็จ เมื่อนำออกมาตรวจสอบพบว่าขนาดของมันใหญ่เกือบเท่าเหรียญ นางสาวหลี่แทบจะร้องไห้ แพทย์บอกกับเธอว่าโชคดีมากที่แมงมุมเข้าไปในช่องหูในส่วนที่เป็นช่องแคบๆ อีกทั้งนางสาวหลีไม่ได้แคะหู ภายในช่องหูของเธอจึงไม่ได้รับความเสียหายมากนัก

ทั้งนี้นางสาวหลี่เล่าว่า เมื่อวันที่3ส.ค.บ้านใหม่ของเธอกำลังอยู่ในช่วงตกแต่ง เธอรู้สึกเหนื่อยมากจึงนอนหลับที่บ้านใหม่หลังนั้น เมื่อตื่นมาก็รู้สึกคันหูซ้าย แต่ว่ามัวแต่ยุ่งกับการแต่งบ้าน จึงไม่ทันได้ใส่ใจอะไร

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สลด แม่หัวใจวายตายขณะเล่นเครื่องต่อหน้าลูก




(6 ส.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานถึงอุบัติเหตุอันน่าสลดของครอบครัวหนึ่งที่สวนสนุก เดรยตัน มาเนอร์ (Drayton Manor Park) ในประเทศอังกฤษ รายงานระบุว่านาง คาร์ลา ไนท์ (Carla Knight) วัย 42 ปีได้เกิดอาการโรคหัวใจกำเริบในขณะที่กำลังเล่นเครื่องเล่นที่ชื่อ เมลสตรอม (Maelstrom) ซึ่งเป็นเครื่องเล่นที่ใช้เหวี่ยงผู้เล่นในอากาศด้วยความสูงถึง 70 ฟุต เมื่อเธอเล่นเสร็จขณะเดินลงมาจากเครื่องเล่นได้มีการเรียกทีมปฐมพยาบางเข้ามาดูอาการและเข้าช่วยเหลือแต่สายเกินไปจึงทำให้เธอเสียชีวิตต่อหน้าสามีและลูกของเธอ
จากพยานผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่าทางสวนสนุกได้หยุดเครื่องเล่นและช่วยกันพยุงตัวเธอลงมาที่พื้นก่อนจะช่วยกันปฐมพยาบาลด้วยการเช็คระดับการเต้นของหัวใจ ทำการกระตุ้นหัวใจแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตของนางคาร์ลาได้ 
ทั้งนี้ลูกสาววัย 14 ปีของเธอได้โพสข้อความบนเฟสบุค โดยเขียนข้อความไว้อย่างสุดซึ้งว่า "ขอให้แม่ไปดีนะคะ หนูรักแม่ (RIP Momma I Love You)" 

สาว16โร่แจ้งความ ถูกพ่อแท้ๆข่มขืนนาน5ปี แม่แท้ๆบอกอย่าทำเป็นเรื่องใหญ่


สุดทน! เด็กสาววัย 16 ปี หนีออกจากบ้านร้องขอความช่วยเหลือ หลังถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนมานานกว่า 5 ปี

4 ส.ค.55 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่ามีเหตุเด็กสาวอายุ 16 ปี หนีออกจากบ้านมาและขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ต.หนองแม่ไก่ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เนื่องจากถูกพ่อแท้ๆ ของตนเองข่มขืนมานานจนทนไม่ไหว หลังจากรับแจ้งผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงก็พบว่าชาวบ้านกำลังนำเด็กสาวคนดังกล่าวไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอ่างทอง 
เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักช่วยเหลือ จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงติดตามไปยังบ้านพักดังกล่าว เมื่อถึงบ้านพักทางเจ้าหน้าที่บ้านพัก ก็ได้ออกมารับตัวเด็กสาวจากชาวบ้านที่พามาส่ง และนำตัวเข้าห้อง เนื่องจากเด็กมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ ร้องไห้ และมีท่าทีหวาดกลัวตลอดเวลา

ขอบคุณภาพจาก คมชัดลึก


จากการสอบสวน นางสาลี่ (นามสมมติ) ชาวบ้าน ต.หนองแม่ไก่ ผู้ที่เข้าช่วยเหลือ กล่าวว่า เด็กหญิงเชอร์รี่ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี
ได้หนีออกมาจากบ้านเมื่อคืนที่ผ่านมา และได้โทรศัพท์ให้ตนไปรับกลางทาง โดยบอกว่าหนีออกจากบ้านเพราะทนไม่ไหว ตนจึงไปรับแล้วมาที่บ้านก่อน ซึ่งจากการสอบถามนางสาวเชอร์รี่ ได้กล่าวว่า ถูกนายสมชาย (นามสมมติ) พ่อแท้ๆ ข่มขืนจนทนไม่ไหว จึงหนีออกจากบ้านมาเพื่อขอความช่วยเหลือให้พาไปอยู่ที่อื่น                          
นอกจากนี้ นางสาวเชอร์รี่ ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ถูกนายสมชาย ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 11 ปี

ขณะนั้นเรียนอยู่ชั้น ป.6 จนปัจจุบันไม่ได้เรียนต่อแล้ว ต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่ ชั้น ม.2 เนื่องจากมาเรียนไม่ได้ เพราะว่าบางครั้งนายสมชายจะขังไว้ในบ้าน ไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้เป็นเวลานาน พอได้โอกาสพ่อก็จะข่มขืนตลอด และเวลาที่ตนอาบน้ำพ่อก็มักจะแอบดู ตนเคยนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับแม่ แต่แม่ก็บอกว่าอย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ตนจึงเก็บเรื่องเอาไว้ บางครั้งก็หนีไปนอนตามทุ่งนา ตามท่อน้ำ จนกระทั่งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พ่อไปทะเลาะกับใครมาไม่รู้ กลับเข้ามาในบ้านก็สั่งให้ตนไปนอนรอในห้อง จากนั้นพ่อก็เข้ามาข่มขืนกระทำชำเราอีก แม้ว่าตนจะขอร้องแล้วถามพ่อว่า "เห็นตนเป็นลูกบ้างมั้ย" แต่คำตอบที่ออกมาจากพ่อแท้ๆ กลับบอกว่า "เห็นเป็นทั้งลูกและเมีย" และเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนสบโอกาสจึงหนีออกจากบ้านเพื่อมาหานางสาลี่ให้ช่วยเหลือ
                         
ด้านนายสำเนา มังกรแก้ว ผู้ใหญ่บ้านในตำบลหนองแม่ไก่ กล่าวว่า
เมื่อคืนนี้ตนได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่ามีเด็กสาวหนีออกจากบ้านมาขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกพ่อข่มขืน ตนจึงเข้าไปตรวจสอบก็พบเด็กหญิงดังกล่าวนั่งร้องไห้อยู่ จึงทำการสอบถามก็พบว่าถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนจริง พอรุ่งเช้าตนจึงปรึกษากับผู้ใหญ่ในอำเภอว่าจะให้ทำอย่างไร จึงได้รับคำตอบว่า ให้ไปปรึกษากับทางบ้านพักเด็กฯ ซึ่งทางบ้านพักเด็กฯ ได้แนะนำให้ตนนำเด็กสาวคนดังกล่าวมาส่งที่บ้านพักเด็ก เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
                         
ทางด้านนางละอองวรรณ คงคุ้ม นักพัฒนาสังคมประจำบ้านพักเด็กฯ กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งก็ได้ประสานไปยังนายสำเนา ให้นำตัวเด็กมาส่งที่บ้านพักเด็กฯ 
เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดราชการ เจ้าหน้าที่มีน้อย ซึ่งหลังจากรับตัวเด็กแล้ว ทางบ้านพักเด็ก จะได้ประสานไปยังผู้เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ และเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เนื่องจากตามระเบียบทางบ้านพักเด็กฯ สามารถควบคุมตัวเด็กไว้ดูแลได้เพียง 7 วัน และเบื้องต้นจากการสอบถามเด็ก ได้รับคำตอบจากเด็กว่า ขณะนี้ยังไม่ประสงค์ที่จะเจอกับพ่อแม่ เพราะยังทำใจไม่ได้
                         
จนกระทั่งเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ได้นำตัวนางสาวเชอร์รี่เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับพ่อของนางสาวเชอร์รี่
                         
ด้าน พ.ต.อ.ชูเดช กองกันภัย รอง ผบก.ภ.จว.อ่างทอง กล่าวว่า


หลังจากทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอ่างทอง ได้พาผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเด็กสาววัย 16 ปี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท. ชูเกียรติ ทัศนัย สารวัตรเวร สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ว่าถูกพ่อบังเกิดเกล้าข่มขืนกระทำชำเราจนทนไม่ไหว หนีออกจากบ้าน ซึ่งตอนนี้ตนได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี เร่งทำการสอบสวนและประสานผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกับสอบสวน เนื่องจากเด็กสาวดังกล่าว ยังเป็นเยาวชน และให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามพ่อบังเกิดเกล้ามาทำการสอบสวน หากพบว่ากระทำจริงจะทำต้องดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเฉียบขาด แต่ที่น่าสลดก็คือ เด็กสาวดังกล่าวได้ไปเล่าให้แม่ฟังแต่แม่กลับเฉย ซึ่งปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาทางครอบครัวที่ละเอียดอ่อน ในตอนนี้ก็ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว ดูแลและฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กเสียก่อน


วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

หลานนักข่าวอ่างทองยิงโหดเจ้าของซ่อมจยย.ดับ


หลานนักข่าวอ่างทอง กระหน่ำยิงเจ้าของร้านซ่อมจักรยานยนต์ดับคาหน้าร้านเซเว่น กล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัด เตรียมล่าตัวดำเนินคดี



          วันที่ 5 ส.ค.55  เมื่อเวลา 02.00 น.  พ.ต.ต. ราชันต์ เพ็ชรรุจิ สารวัตรเวร สภ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ตรงข้ามโรงแรมอ่างทอง ต.ตลาดหลวง อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พ.ต.อ. ชูเดช กองกันภัย รอง ผบก.ภ.จว.อ่างทอง พ.ต.อ. อนุสรณ์ วะยาคำ ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง และเจ้าหน้าหน้าที่สมาคมวีอาร์กู้ภัยจังหวัดอ่างทอง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บนอนแน่นิ่งอยู่หน้าร้านเซเว่น ทราบชื่อคือ นายอนุโรจน์ ชูวงษ์วาน อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/1 ต.ตลาดหลวง อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทอง แพทย์และพยาบาลช่วยกันยื้อชีวิตอยู่พักใหญ่ แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้เนื่องจากพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
          
 จากการสอบสวน นางปิยะพร พุ่มอุลิต อายุ 27 ปี ภรรยานายอนุโรจน์ กล่าวว่า นายอนุโรจน์ เป็นเจ้าหน้าที่สมาคมวีอาร์กู้ภัยจังหวัดอ่างทอง และเป็นเจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์อยู่ในตลาดอ่างทอง ก่อนเกิดเหตุสามีตนได้ไปเที่ยวที่ผับซีแอลในตัวเมืองอ่างทอง จนกระทั่งประมาณเวลา 01.00 น. ตนได้โทรหาสามีเพื่อถามว่าจะกลับบ้านเมื่อไหร่ ซึ่งสามีก็ได้ตอบกลับมาว่ากำลังจะกลับแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง จากนั้นไม่ถึง 30 นาที ได้มีลูกน้องของสามีโทรมาบอกตนว่าสามีถูกยิงที่หน้าร้านเซเว่น ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลอ่างทอง ตนจึงรีบไปโรงพยาบาลอ่างทอง และทราบว่าสามีตนเสียชีวิตแล้ว 


พ.ต.ต. ราชันต์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนซึ่งเบื้องต้นคาดว่า น่าจะเป็นปลอกกระสุนปืนขนาด .32 ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 4 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และจากการเข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นของร้านเซเว่น ปรากฏว่ากล้องสามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน โดยเป็นภาพที่ผู้ตายถูกยิงล้มลงไปแล้ว คนร้ายได้เข้ามาจ่อยิงซ้ำแบบเผาขน โดยกระสุนเข้าที่กลางหลัง 1 นัด คอ 1 นัด หน้าท้อง 1 นัด และที่ศีรษะอีก 1 นัด รวม 4 นัด สำหรับคนร้ายทราบชื่อคือ นายไมค์ ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อายุประมาณ 20 ปี ซึ่งนายไมค์ก็เป็นลูกน้องของผู้ตายที่ซ่อมรถจักรยานยนต์อยู่ด้วยกัน 


จากการสอบถามเพื่อนในกลุ่มของผู้ตายที่ไปเที่ยวซีแอลด้วยกัน ในเบื้องต้นได้ให้การว่า ระหว่างที่เที่ยวอยู่ในซีแอลนั้น นายไมค์มีอาการเมาและเอะอะโวยวาย และมีปากเสียงกับผู้ตาย จากนั้นกลุ่มของผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับออกมาจากซีแอล จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าร้านเซเว่นซึ่งอยู่ปากทางเข้าบ้านของผู้ตาย ผู้ตายจึงจอดรถและเรียกเพื่อนที่เป็นกู้ภัยออกมากินก๋วยเตี๋ยว จังหวะนั้น นายไมค์ก็ขับรถเข้ามาเดินพูดคุยกันผู้ตายก่อนที่จะชักปืนออกมายิงจนล้มลง และตามไปยิงซ้ำจนเสียชีวิต และขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น สำหรับสาเหตุนั้นจากการสืบสวนทราบว่านายไมค์และผู้ตายช่วงหลังมักมีปัญหาอะไรกันบางอย่างจนเคลียร์ไม่ลงตัว อย่างไรก็ตาม ได้ส่งชุดสืบสวนของ สภ.เมืองอ่างทอง ออกหาข่าวติดตามตัวนายไมค์มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สำหรับนายไมค์เป็นหลานของนักข่าวคนหนึ่งช่วงก่อนจะมาอยู่กับผู้ตายเป็นประจำพอมาระยะหลังนายไมค์มีปัญหากับผู้ตายบางเรื่องจนบาดหมางกันและมีปากเสียงกันเรื่อยมา

สาว16โร่แจ้งความถูกพ่อแท้ๆข่มขืนนาน5ปี


สุดทน! เด็กสาววัย 16 ปี หนีออกจากบ้านร้องขอความช่วยเหลือ หลังถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนมานานกว่า 5 ปี




16 ส.ค.55 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่ามีเหตุเด็กสาวอายุ 16 ปี หนีออกจากบ้านมาและขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ต.หนองแม่ไก่ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เนื่องจากถูกพ่อแท้ๆ ของตนเองข่มขืนมานานจนทนไม่ไหว หลังจากรับแจ้งผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงก็พบว่าชาวบ้านกำลังนำเด็กสาวคนดังกล่าวไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอ่างทอง เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักช่วยเหลือ จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงติดตามไปยังบ้านพักดังกล่าว เมื่อถึงบ้านพักทางเจ้าหน้าที่บ้านพัก ก็ได้ออกมารับตัวเด็กสาวจากชาวบ้านที่พามาส่ง และนำตัวเข้าห้อง เนื่องจากเด็กมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ ร้องไห้ และมีท่าทีหวาดกลัวตลอดเวลา
จากการสอบสวน นางสาลี่ (นามสมมติ) ชาวบ้าน ต.หนองแม่ไก่ ผู้ที่เข้าช่วยเหลือ กล่าวว่า เด็กหญิงเชอร์รี่ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ได้หนีออกมาจากบ้านเมื่อคืนที่ผ่านมา และได้โทรศัพท์ให้ตนไปรับกลางทาง โดยบอกว่าหนีออกจากบ้านเพราะทนไม่ไหว ตนจึงไปรับแล้วมาที่บ้านก่อน ซึ่งจากการสอบถามนางสาวเชอร์รี่ ได้กล่าวว่า ถูกนายสมชาย (นามสมมติ) พ่อแท้ๆ ข่มขืนจนทนไม่ไหว จึงหนีออกจากบ้านมาเพื่อขอความช่วยเหลือให้พาไปอยู่ที่อื่น
นอกจากนี้ นางสาวเชอร์รี่ ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ถูกนายสมชาย ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 11 ปี ขณะนั้นเรียนอยู่ชั้น ป.6 จนปัจจุบันไม่ได้เรียนต่อแล้ว ต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่ ชั้น ม.2 เนื่องจากมาเรียนไม่ได้ เพราะว่าบางครั้งนายสมชายจะขังไว้ในบ้าน ไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้เป็นเวลานาน พอได้โอกาสพ่อก็จะข่มขืนตลอด และเวลาที่ตนอาบน้ำพ่อก็มักจะแอบดู ตนเคยนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับแม่ แต่แม่ก็บอกว่าอย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ตนจึงเก็บเรื่องเอาไว้ บางครั้งก็หนีไปนอนตามทุ่งนา ตามท่อน้ำ จนกระทั่งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พ่อไปทะเลาะกับใครมาไม่รู้ กลับเข้ามาในบ้านก็สั่งให้ตนไปนอนรอในห้อง จากนั้นพ่อก็เข้ามาข่มขืนกระทำชำเราอีก แม้ว่าตนจะขอร้องแล้วถามพ่อว่า "เห็นตนเป็นลูกบ้างมั้ย" แต่คำตอบที่ออกมาจากพ่อแท้ๆ กลับบอกว่า "เห็นเป็นทั้งลูกและเมีย" และเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนสบโอกาสจึงหนีออกจากบ้านเพื่อมาหานางสาลี่ให้ช่วยเหลือ
ด้านนายสำเนา มังกรแก้ว ผู้ใหญ่บ้านในตำบลหนองแม่ไก่ กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ตนได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่ามีเด็กสาวหนีออกจากบ้านมาขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกพ่อข่มขืน ตนจึงเข้าไปตรวจสอบก็พบเด็กหญิงดังกล่าวนั่งร้องไห้อยู่ จึงทำการสอบถามก็พบว่าถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนจริง พอรุ่งเช้าตนจึงปรึกษากับผู้ใหญ่ในอำเภอว่าจะให้ทำอย่างไร จึงได้รับคำตอบว่า ให้ไปปรึกษากับทางบ้านพักเด็กฯ ซึ่งทางบ้านพักเด็กฯ ได้แนะนำให้ตนนำเด็กสาวคนดังกล่าวมาส่งที่บ้านพักเด็ก เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ทางด้านนางละอองวรรณ คงคุ้ม นักพัฒนาสังคมประจำบ้านพักเด็กฯ กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งก็ได้ประสานไปยังนายสำเนา ให้นำตัวเด็กมาส่งที่บ้านพักเด็กฯ เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดราชการ เจ้าหน้าที่มีน้อย ซึ่งหลังจากรับตัวเด็กแล้ว ทางบ้านพักเด็ก จะได้ประสานไปยังผู้เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ และเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เนื่องจากตามระเบียบทางบ้านพักเด็กฯ สามารถควบคุมตัวเด็กไว้ดูแลได้เพียง 7 วัน และเบื้องต้นจากการสอบถามเด็ก ได้รับคำตอบจากเด็กว่า ขณะนี้ยังไม่ประสงค์ที่จะเจอกับพ่อแม่ เพราะยังทำใจไม่ได้
จนกระทั่งเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ได้นำตัวนางสาวเชอร์รี่เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับพ่อของนางสาวเชอร์รี่
ด้าน พ.ต.อ.ชูเดช กองกันภัย รอง ผบก.ภ.จว.อ่างทอง กล่าวว่า หลังจากทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอ่างทอง ได้พาผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเด็กสาววัย 16 ปี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท. ชูเกียรติ ทัศนัย สารวัตรเวร สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ว่าถูกพ่อบังเกิดเกล้าข่มขืนกระทำชำเราจนทนไม่ไหว หนีออกจากบ้าน ซึ่งตอนนี้ตนได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี เร่งทำการสอบสวนและประสานผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกับสอบสวน เนื่องจากเด็กสาวดังกล่าว ยังเป็นเยาวชน และให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามพ่อบังเกิดเกล้ามาทำการสอบสวน หากพบว่ากระทำจริงจะทำต้องดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเฉียบขาด แต่ที่น่าสลดก็คือ เด็กสาวดังกล่าวได้ไปเล่าให้แม่ฟังแต่แม่กลับเฉย ซึ่งปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาทางครอบครัวที่ละเอียดอ่อน ในตอนนี้ก็ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว ดูแลและฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กเสียก่อน

เผย!! เรื่อง 'ลับ-ไม่ลับ' ของมิยาบิ



“มิยาบิ” หรือ “มาเรีย โอซาว่า” เธอเพิ่งประกาศ “แขวนเต้า” เลิกยุ่งเกี่ยวกับหนังอย่างว่าไปเรียบร้อยแล้ว เอ๊ะยังไง และก่อนที่เราจะได้เห็นมิยาบิลุคใหม่มาอัพเดทเรื่องของเธอกันดีกว่า 10 เรื่องลับๆ ของเธอมีอะไรบ้าง?
1.อาหารไทย “ฉันชอบอาหารไทย พวกปลาก็ชอบ”
2.หนุ่มไทย“น่ารัก...มากกกก”
3.วันว่างของสาวเรต “ฉันดื่มเก่งค่ะ แต่ไม่ถึงขนาดเป็นสาวปาร์ตี้นะคะ”
4.หนุ่มในสเป๊ก “นิสัยแมนๆ หน่อย ดูมี Energy สูง กระตือรือร้น และสามารถปกป้องฉันได้”
5.วิธีจีบมิยาบิ “เข้ามาแบบธรรมดาๆ เลยค่ะ อาจจะมีออกไปเที่ยวด้วยกันบ้าง และควรจะพยายามสร้างความประทับใจให้ฉันด้วย”
6.ลาวงการ “เอวี” “ฉันคิดว่าฉันเล่นหนังเอวีมานาน และฉันก็เต็มที่กับการทำงานในช่วงที่ผ่านมา คงถึงเวลาที่จะพอได้แล้ว ต่อจากนี้อยากทำอย่างอื่นบ้าง”
7.หนังเอวีในสต๊อก “ในห้องของฉัน น่าจะมีหนังเอวีประมาณเกือบร้อยเรื่องได้มั้งคะ”
8.กูรูเรื่องบนเตียง “อาจจะมีความรู้มากกว่าคนทั่วไปบ้าง”
9.มุมมอง 'รักกับเซ็กซ์' “การแสดงออกถึงความรักผ่านเซ็กซ์ ฉันว่าเป็นเรื่องที่ดีเลยค่ะ”
และ10.ทำไมสาวเอวีต้องมองกล้อง? “เวลาที่เล่นหนัง แม้กระทั่งหนังเอวีก็ตาม ฉันก็ต้องแสดงความเป็นมืออาชีพออกมา”

เฉลย !! คลิปคลอดลูกคาห้องเรียน ที่แท้คือ…?



คลิปสุดช็อคเด็กมัธยมคลอดลูกคาห้องเรียน ที่แท้คือ…?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคลิปเด็กนักเรียนระดับมัธยมที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น โดยภาพที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์เหมือนกำลังคลอดเด็กในห้องเรียน ล่าสุดมีผู้ไปเฉลยคลิปบนยูทูปแล้วปรากฎว่าเป็นงานโปรโมตงานของนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ ภาควิชาโฆษณา osp10
โดยคลิปชุดนี้ทำขึ้นมาเพื่อโปรโมทงาน B.A.D Student Workshop 2012 ทั้งนี้ทางคณะผู้จัดทำขออภัยและบอกว่าทำขึ้นมาเพื่อเสียดสีสังคม..และมีจุดประสงค์เพื่อการโปรโมทงาน หวังว่าทุกคนจะเข้าใจ

วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ยายวัย80ถูกลวงออกจากบ้านปล่อยทิ้งโรงพัก



เศร้า! หญิงชราวัย 80 ปี ถูกล่อลวงออกจากบ้าน ก่อนถูกปล่อยลอยแพหน้าโรงพักสัตหีบ จนท.เร่งติดตามตัวญาติมารับกลับ






4 ส.ค.55 ร.ต.ท.สายใจ คำจุลลา ร้อยเวรสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีหญิงชราวัย 80 ปี ถูกหญิงสาวหน้าตาดี ลักษณะผอมสูง ขับรถนำมาส่งทิ้งไว้ที่หน้าโรงพักตั้งแต่ช่วงเช้า ขณะนี้ยังไม่มีญาติมาติดต่อขอรับตัวกลับบ้าน จึงขอให้ทางสื่อทำการประชาสัมพันธ์ในการติดตามหาญาติ
                         
ต่อมาได้เดินทางไปตรวจสอบพบหญิงชรา อยู่ในชุดเสื้อคอกระเช้าสีน้ำตาล นุ่งผ้าถุงสีน้ำตาล เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน กำลังนั่งเหม่อลอยชายตาชะเง้อมองหา คล้ายคนรอความหวัง นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าประตูเข้าห้องลงบันทึกประจำวัน ข้างกายมีถุงพลาสติกใส่ข้าวกล่อง น้ำ และหมากพลู จากการสนทนา หญิงชรารายนี้ พูดจารู้เรื่องพอจับใจความ บางอย่างก็หลงลืม โดยบอกว่าตนชื่อ นางส้ม ศรีมงคล อายุ 80 ปี จำที่อยู่บ้านไม่ได้ รู้ว่ามีสวนยางอยู่ในพื้นที่จังหวัดระยอง
สอบถาม นางส้ม ศรีมงคล เล่าว่า ตนมีลูก 7 คน ปัจจุบันได้อาศัยอยู่กับบุตรชายคนโต และสะใภ้ ที่จังหวัดระยอง โดยยึดอาชีพขายแตงโม ส่วนคนอื่นๆ ได้แยกย้ายกันออกไปทำงานต่างจังหวัด ก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้า ขณะที่บุตรชาย และสะใภ้ ออกไปขายแตงโม ตนจึงอยู่บ้านเพียงลำพัง ได้มีหญิงสาวหน้าตาดี ผมยาว ลักษณะผอมสูง ขี่รถจักรยานยนต์มาที่หน้าบ้าน และบอกว่าจะพาไปเที่ยว มาส่งกลับบ้านในตอนเย็น จึงหลงเชื่อนั่งซ้อนรถออกมาด้วย หญิงสาวได้พาขี่มาตามถนนสุขุมวิทจากจังหวัดระยอง มุ่งหน้าเข้าอำเภอสัตหีบ รวมระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร โดยไม่ได้แวะพาไปเที่ยวที่ไหน ก่อนจะนำมาส่งทิ้งไว้ที่หน้าโรงพัก บอกให้คอยอยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวจะมารับกลับบ้าน ตนไม่รู้เบอร์ติดต่อญาติ จึงไม่รู้จะไปขอความช่วยเหลือจากใคร ได้เพียงแต่นั่งรอคนมารับ

นางนราวดี นวลจำปา อายุ 44 ปี แม่ค้าส้มตำหน้าโรงพัก เล่าว่า ได้เห็นหญิงชรารายนี้ ตั้งแต่ช่วงเปิดร้านในตอนสายของเมื่อวานนี้ นั่งอยู่ลำพังภายในศาลาหน้าโรงพัก ไม่มีใครมาสนใจเหลียวแล จึงเกิดความสงสารนำอาหารมาให้กิน จนทราบสอบถามจึงทราบว่า ได้ถูกคนล่อลวงมาปล่อยทิ้งไว้ จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามหาญาติ

ด้าน ร.ต.ท.สายใจ คำจุลลา ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า หลังทราบเรื่อง ได้ตรวจสอบรายชื่อหญิงชรารายนี้ เพื่อติดตามไปยังที่อยู่ แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบในทะเบียนราษฎร์ได้ จึงได้ประสานไปยังสื่อมวลชล ให้ช่วยมาทำการประชาสัมพันธ์ออกสื่อแขนงต่างๆ ในการติดตามหาญาติ ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถแน่ชัดว่าเกิดจากโรคหลงลืม หรือถูกล่อลวงมา ซึ่งหากผู้ใดรู้เบาะแสของญาติหญิงชรารายนี้ สามารถติดต่อให้ข้อมูลได้ที่ สภ.สัตหีบ หมายเลขโทรศัพท์ 038 -438183
     

ฮือฮา! “โปโลน้ำหญิง" จุกโผล่ระหว่างแข่งโอลิมปิก 2012




ตาค้างกันเป็นแถวเมื่อแฟนๆ กีฬาที่รับชมการถ่ายทอดสดโปโลน้ำหญิง โอลิมปิกเกมส์ 2012 ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง “เอ็นบีซี” (NBC) ของสหรัฐอเมริกา เมื่อเกิดอุบัติเหตุใต้น้ำ ผู้เล่นทีมสเปน เผลอไปดึงชุดว่ายน้ำของนักโปโลน้ำทีมสหรัฐฯ หลุดจนหัวนมโผล่


ในการแข่งขันโปโลน้ำหญิง รอบแบ่งกลุ่ม ระหว่าง สหรัฐอเมริกา กับ สเปน นอกจากผลการเสมอกันอย่างสนุกด้วยสกอร์ 9-9 แฟนๆ ยังมีของแถมให้รับชม จังหวะที่กล้องถ่ายทอดสดฉายภาพใต้น้ำ ประจวบเหมาะกับผู้เล่นสเปนรายหนึ่ง ไปดึงเสื้อแข่งสาวแดนมะกันจนยืด และก็เห็นหน้าอกโผล่ออกมาระหว่างการถ่ายทอดสด


ด้าน “ทวิตเตอร์” เครือข่ายสังคมออนไลน์ชั้นนำของโลก ต่างมีกระแสความคิดเห็นถูกโพสต์มากมายถึงเหตุการณ์ “หัวนม” โผล่ในลอนดอนเกมส์ อย่างเช่น นั่นผมได้เห็นอะไรกันเนี่ย หรือว่า ผมคิดว่าตัวเองเพิ่งเห็นหัวนมโผล่ ขณะที่อีกรายโพสต์ว่า ผมไม่ได้ดูกีฬาโปโลน้ำอยู่เป็นแน่ นี่มันภาพยนตร์เกี่ยวกับกามารมณ์ชัดๆ”

อึ้ง! เครื่องบินชนนกจนเป็นรู โชคดีลงจอดปลอดภัย


 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม สำนักข่าวเอบีซีนิวส์ รายงานว่า เครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ประสบอุบัติเหตุชนกับนกเข้าอย่างจัง จนจมูกเครื่องเกิดรอยขนาดใหญ่ แต่ทั้งนี้ กัปตันสามารถนำเครื่องลงจอดได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

         รายงานระบุว่า ระหว่างที่เครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ 1475 ได้เดินทางออกจากสนามบินนานาชาติดัลลัส-ฟอร์ตเวิร์ธ และขณะกำลังลดระดับเตรียมลงที่เดนเวอร์ เวลาประมาณ 9.00 น.ของวันอังคาร (31 กรกฎาคม) ตามเวลาท้องถิ่น ก็เกิดชนเข้ากับนกจนทำให้บริเวณจมูกเครื่องบินเป็นรอยแตก และเกิดรูขนาดใหญ่ สำหรับนกเคราะห์ร้ายตัวดังกล่าวขณะนี้ ยังมีชีวิตอยู่ และได้รับการรักษาจากเจ้าหน้าที่ในท่าอากาศยาน หลังจากนั้นจะส่งให้ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันสมิธโซเนียน ในกรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อวิเคราะห์ว่านกตัวดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ใด

         ทางด้าน คริสเทน เดวิด โฆษกของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ชี้แจงว่าผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 151 คนไม่มีใครได้รับบาดเจ็บใด ๆ ขณะที่สำนักข่าวท้องถิ่นระบุว่าคณะกรรมการความปลอดภัยทางคมนาคมแห่งชาติ สหรัฐฯ (NTSB) จะเข้าสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมชี้ว่าลักษณะของรอยแผลของเครื่องเหมือนกับกรณีอื่น ๆที่เครื่องบินชนเข้ากับนก
      
         ขณะที่ นายสตีฟ โคเวลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน บอกว่า เหตุการณ์นี้พบเห็นไม่บ่อยครั้งนัก เนื่องจากจมูกเครื่องบินถือเป็นจุด ๆ หนึ่งที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดสำหรับโอกาสที่จะชนเข้ากับนกที่มีน้ำหนัก 4 ปอนด์ (1.8 กิโลกรัม) โดยมันไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์ และก็ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบลงจอดใด ๆ ผู้โดยสารเองก็ไม่รับรู้ถึงการชนกัน มีเพียงกัปตันเท่านั้นที่ได้ยินเสียงนกกระแทกเข้ากับจมูกเครื่อง

ระเบิดศึกชิงนาง โจ๋สวีเดนแทงพรุนน.ศ.หนุ่มไทยตายคาโรงแรมสระแก้ว




โจ๋สวีเดนฆ่าหนุ่มไทยครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 3 ส.ค. ร.ต.ท.ธรรมนูญ ภูเดช ร้อยเวร สภ.เมืองสระแก้ว รับแจ้งเหตุฆ่ากันในโรงแรมจันทรา อ.เมืองสระแก้ว จึงรายงานผู้บังคับบัญชานำกำลังเดินทางไปตรวจสอบพบศพนายวสันต์ หรือหนึ่ง นาสืบ อายุ 18 ปี นักศึกษาปี 1 คณะสารสนเทศ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นอนตายอยู่หน้าบันไดโรงแรม สวมเสื้อยืดสีชมพู แจ๊กเกตดำ และกางเกงขาสั้นสีเทา ถูกแทงเข้าตามร่างกายหลายแห่ง ส่วนคนร้ายทราบว่าอยู่ในห้องพักเลขที่ 101

 เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปในห้องพบนายโจนิส มาห์มุด อายุ 18 ปี ชาวสวีเดนในสภาพคอเสื้อฉีกขาด มีร่องรอยผ่านการต่อสู้ นั่งซึมอยู่ในห้องพร้อมกับน.ส.จีรนันท์ ตาทอง อายุ 18 ปี แฟนสาว พบกองเลือดจำนวนมากในห้องและมีดปลายแหลมยาว 6 นิ้วเปื้อนเลือดตกอยู่ จึงพาทั้ง 2 คนมาที่โรงพักและติดต่อล่ามชาวสวีเดนมาสอบปากคำ เบื้องต้นนายโจนิสสารภาพว่าเป็นคนสังหารนายวสันต์ แต่เป็นการป้องกันตัว

 น.ส.จีรนันท์ ต้นเรื่องของเหตุการณ์ทั้งหมดให้การว่า เป็นชาว จ.สระแก้ว ต่อมาตามแม่เดินทางไปอยู่ประเทศสวีเดน กระทั่งคบหาเป็นแฟนกับนายโจนิส ส่วนนายวสันต์เป็นเพื่อนที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊ก ก่อนเกิดเหตุชวนแฟนหนุ่มชาวสวีเดนมาเที่ยวที่บ้านเกิด จ.สระแก้ว โดยมาถึง 2 วันแล้ว กระทั่งวันเกิดเหตุติดต่อนายวสันต์ เพราะต้องการพูดคุยและเจอหน้า เนื่องจากที่ผ่านมาเพียงติดต่อกันทางเฟซบุ๊กเท่านั้น

 เด็กสาวให้การอีกว่า ออกไปพบนายวสันต์ข้างนอก ก่อนที่นายวสันต์จะขี่รถจักรยานยนต์มาส่งที่โรงแรม จากนั้นก็พามาที่ห้องเพื่อแนะนำให้รู้จักกับแฟนหนุ่ม แต่เมื่อมาถึงห้องนายวสันต์ก็รีบเปิดประตูเข้าไปและล็อกไม่ให้ตนตามเข้าไปด้วย ระหว่างนั้นได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทอยู่ประมาณ 5 นาที นายวสันต์เปิดประตูออกมาในสภาพเลือดท่วมตัวแล้ววิ่งออกไปนอนตายหน้าโรงแรม เมื่อเข้าไปดูในห้องพบแฟนหนุ่มชาวสวีเดนยืนตัวสั่นด้วยความตกใจอยู่

 ด้านนายโจนิสให้การว่า เมื่อนายวสันต์เข้ามาในห้องก็พูดจาในลักษณะไม่พอใจทำนองหึงหวงก่อนเข้ามาผลักอก และชกต่อยกัน แต่เพราะตนตัวใหญ่กว่าอีกทั้งมีวิชายูโด ทำให้นักศึกษาไทยสู้ไม่ได้ จึงหยิบมีดปลายแหลมยาว 6 นิ้ว ซึ่งซื้อมาจากพัทยาและวางอยู่บนโต๊ะในห้องมาเป็นอาวุธ แต่ตนเข้าต่อสู้แย่งมีดมาได้จึงกระหน่ำแทงเพื่อป้องกันตัว ก่อนที่นายวสันต์จะเปิดประตูวิ่งหนีออกไปเสียชีวิตดังกล่าว

 หลังสอบปากคำแล้วเจ้าหน้าที่นำตัวนายโจนิสไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ก่อนควบคุมตัวไว้พร้อมแจ้งสถานทูตสวีเดนมาร่วมสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป

เรือระเบิด! กลางแม่น้ำเจ้าพระยา รอด 2 หาย 1



เรือสองตอนนักข่าวมติชน ปทุมธานี เครื่องระเบิดกลางเจ้าพระยา โดดน้ำหนี จมหาย 1 รอด 2



พ.ต.ท.วรุฒ์ ไทยรัฐเทวินทร์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีเรือสองตอน ไฟลุกไหม้กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามโรงงานกระดาษเขตเทศบาลเมืองปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.ชุมพร ปิ่นสุวรรณ สวป.สภ.เมือง ไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเรือดับเพลิงเทศบาลเมืองปทุมธานี พบเรือสองตอน ทำด้วยไฟเบอร์ ติดตั้งวางเครื่องยนต์แบบใช้พวงมาลัยบังคับเรือ เพลิงได้ลุกไหม้จากกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งเมือง ลอยตามน้ำ ไปที่หน้าโรงงานกระดาษ เขตตำบลบ้านกระแชง โดยมีผู้ที่รอดชีวิตทราบชื่อ คือ นายไพศาล ตั้งยะฤทธิ์ อยู่บ้านเลขที่ 41/1-2 ถ.ปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี เจ้าของร้านศูนย์ติดตั้งแก๊สรถยนต์และเป็นนักข่าวมติชนประจำจังหวัดปทุมธานี และนายวรุต วงษ์สุวรรณ อายุ 30 ปี และผู้สูญหายทราบชื่อ นายนคพล คงสมรวย อายุ 18 ปี ซึ่งทั้งหมดพักอยู่ที่เดียวกัน

จากการสอบสวน นายไพศาล เจ้าของเรือ และเป็นคนขับเรือ ได้ให้การว่า ขณะที่วิ่งอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา เครื่องยนต์ได้เกิดดับลง จึงได้ช่วยกันซ่อมเครื่อง ขณะนั้นได้มีน้ำมันเบนซินหกออกจากถังน้ำมัน ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น และได้ช่วยกันดับไฟ แต่ดับไม่ได้ และเครื่องยนต์ได้ระเบิดขึ้น ทำให้ไฟลุกไหม้ จึงตัดสินใจกระโดดลงแม่น้ำ ว่ายขึ้นฝัง แต่นายนคพล ว่ายน้ำไม่แข็ง จึงจมน้ำหายไป และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู 

สุนัขพิทบูลโหด! รุมกัดชาวปทุมธานี จนต้องตัดแขน

เจ้าของ 'พิตบูล' เก็บตัวเงียบ-หมาไม่อยู่ ทนายยื่นมือช่วยเหยื่อโหด



เจ้าของบ้านสุนัขพันธุ์โหด "พิตบูล" รุมขย้ำชาวนาจนแขนขาด ปิดบ้าน-หอบสุนัขหนี ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงผวา วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยมาตรวจสอบ เกรงจะกัดลูกหลานซ้ำรอย...



จากกรณี นายสัมพันธ์ ต้นดี อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/6 ม.1 ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวไทยรัฐว่า นายสมนึก ต้นดี อายุ 55 ปี บิดา ถูกสุนัขพันธุ์พิตบูล 4 ตัว ของเพื่อนบ้าน รุมขย้ำกัดทั่วร่างกาย จนแพทย์ต้องตัดแขนทิ้ง และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากเจ้าของบ้านที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์โหดอ้างว่าเป็นของคนงาน พร้อมเสนอเงินให้ 1 แสนบาทนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2555 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 42/12 ม.1 ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ที่ทางผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นบ้านของเสี่ยเจ้าของสุนัขพันธุ์พิตบูลทั้ง 4 ตัว พบว่าหน้าบ้านมีเพียงรถยนต์และรถ จยย.จำนวน 4 คัน จอดอยู่ในโรงรถหน้าบ้าน โดยมีรั้วล้อมรอบขอบชิด ส่วนรั้วด้านหน้าเป็นแบบสแตนเลส เมื่อผู้สื่อข่าวกดกริ่งเรียก ก็ไม่มีผู้ใดออกมาพบแต่อย่างใด จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงต่างก็บอกว่า บ้านหลังดังกล่าวได้เลี้ยงสุนัขไว้หลายตัว รวมทั้งมีฟาร์มเลี้ยงไก่ อยู่หลังบ้านด้วย ซึ่งทุกวันที่ผ่านมาจะเห็นสุนัขพันธุ์พิตบูล 4-5 ตัว โดยมีตัวเล็ก 2 ตัว และตัวใหญ่อีก 2-3 ตัว แต่เมื่อมีข่าวออกมา ก็ไม่เห็นสุนัขดังกล่าวแล้ว จึงไม่รู้ว่าเจ้าของนำไปหลบซ่อนไว้
ที่ไหนหรือไม่



ด้านชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง กล่าวว่า ในบริเวณพื้นที่ย่าน ม.1-3 ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี มีบรรดาคนชอบเลี้ยงสุนัขพันธุ์พิตบูล ได้นำสุนัขพันธุ์โหดมาเลี้ยงกันหลายบ้าน จึงขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือเจ้าหน้าที่ เข้ามาตรวจสอบ เนื่องจากทุกคนที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้เคียงต่างหวาดกลัว เกรงว่าถ้าเจ้าของไม่ดูแล หรือไม่มีสถานที่กั้นอย่างดี หมาพันธุ์โหดนี้ก็อาจจะเข้ามาขย้ำกัดลูกหลานชาวบ้านอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาพบว่า สุนัขพิตบูลนั้นได้กัดสุนัขและสัตว์เลี้ยง แม้แต่วัว-ควายของชาวบ้านก็ถูกกัดตายมาแล้ว และยิ่งมารู้ข่าวว่ากัดชาวนาผู้เคราะห์ร้ายรายนี้ ยิ่งทำให้ชาวบ้านหวาดผวาไปตามๆ กัน
ขณะที่บ้านของนายสมนึก ชาวนาผู้เคราะห์ร้าย ได้มีเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องที่เพิ่งทราบข่าว ต่างเดินทางมาเยี่ยมเยียน รวมทั้งบรรดาผู้สื่อข่าวจากสถานีต่างๆ ก็มาขอทำข่าวกันจนบ้านดูคับแคบไปถนัดตา ซึ่งนายสมนึกก็ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่เดินทางมาให้กำลังใจว่า ถึงแม้แขนตนจะพิการ แต่ก็ไม่ท้อต่อชีวิตโชคชะตา เพราะเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่ เพราะในวันเกิดเหตุ หากตนไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสองพ่อลูกป่านนี้คงไม่รอด สำหรับการเรียกร้องกับเจ้าของหมานั้น มีทนายความคนหนึ่งยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในด้านกฎหมาย เพราะครอบครัวของตนเป็นชาวนา ไม่มีความรู้ในเรื่องกฎหมายแต่อย่างใด ส่วนบาดแผลนั้นแพทย์ได้นัดให้ไปตรวจในวันที่ 8 ส.ค.นี้



ด้านนายสุริยนต์ สวนกัน อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/1 ม.1 ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ผู้ช่วยชีวิต เผยนาทีระทึกว่า ในวันเกิดเหตุ ขณะที่ตนกำลังเดินขึ้นบ้าน ก็ได้ยินเสียงสุนัขกรรโชกและคำราม ซึ่งตนจำเสียงได้ว่าต้องเป็นสุนัขพันธุ์พิตบูลของบ้านเสี่ยคนหนึ่งอย่างแนนอน เพราะเจ้าสุนัขทั้งหมดเคยมารุมกัดสุนัขที่บ้านตนตายไป 2 ตัว จากนั้นก็ได้ยินคล้ายเสียงคนร้องให้ช่วย และเพื่อความแน่ใจตนจึงเรียก นายยุทธนะ สวนกัน อายุ 28 ปี ลูกชาย ให้ขึ้นมาช่วยฟังว่าเสียงนั้นดังมาจากทางทิศทางใด เมื่อแน่ใจว่ามีคนร้องขอความช่วยเหลือ ตนกับลูกชายจึงตัดสินใจคว้าเหล็กแป๊บคนละท่อน พร้อมทั้งขับรถ จยย.มาตามทาง และเมื่อไปถึงก็เห็นสุนัขพันธุ์พิตบูล ซึ่งเป็นตัวใหญ่ 2 ตัว และตัวเล็กอีก 1 ตัว กำลังรุมกัดแขน-ขานายสมนึกอย่างโหดเหี้ยม



ขณะนั้น นายสมนึก เหยื่อสุนัขโหด ดูเหมือนกำลังจะหมดแรงและอยู่ในท่านั่ง ตนกับลูกจึงรีบคว้าเหล็กฟาดสุนัขดังกล่าว จนพวกมันยอมปล่อยแล้วล่าถอยวิ่งออกไป จากนั้นตนจึงรีบบอกให้ลูกชายขี่รถ จยย.ไปเอาโทรศัพท์ที่บ้าน โทรเรียกนายปทุม ธรรมรส ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.เชียงรากใหญ่ ให้มาช่วยเหลือ โดยหลังจากที่ลูกชายขี่รถออกไปแล้ว ตนก็คอยประคองร่างนายสมนึกที่กำลังจะหมดสติไว้ พบว่าที่แขนขวามีบาดแผลจากคมเขี้ยวสุนัขสภาพเหวอะหวะ และตามลำตัวมีเลือดไหลโทรม ทันใดนั้น จู่ๆ สุนัขทั้ง 3 ตัว ก็วิ่งย้อนกลับมายืนประจันหน้ากับตน พวกมันพร้อมที่จะวิ่งเข้ามาขย้ำตนกับนายสมนึกอีก แต่โชคดีที่ลูกชายกับชาวบ้านมาสมทบทัน จึงช่วยกันไล่สุนัขทั้งหมดไปได้ในที่สุด.

วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พบงูตาบอดสายพันธุ์ใหม่ รูปร่างสุดประหลาดเหมือนอวัยวะเพศชาย



พบงูตาบอดสายพันธุ์ใหม่  รูปร่างสุดประหลาดเหมือนอวัยวะเพศชาย
Mthainews: นักวิทยาศาสตร์ค้นพบงูตาบอดสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า atretochoana eiselti ในแม่น้ำรอนโดเนีย ประเทศบราซิล โดยมันมีรูปร่างคล้ายคลึงกับอวัยเพศชาย ซึ่งสัตว์แปลกชนิดนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งในด้านลักษณะทางกายภาพของมัน และมีความยาวของลำตัวถึง1 เมตร
นักชีววิทยาเชื่อว่า สายพันธุ์ของมันใกล้เคียงกับซาลาแมนเดอร์ และกบ แต่รูปร่างทาง การเคลื่อนไหวเหมือนงู และมีระบบหายใจทางผิวหนัง กินสัตว์ตัวเล็กๆเป็นอาหาร เช่น ปลา หนอน แต่ยังคงอยู่ในขั้นตอนการศึกษา และนับว่าเป็นการค้นพบที่สำคัญ



วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แห่ไปดู “ต้นหมาก“ แตกกิ่งคล้ายพญานาค


เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม หลังจากมีชาวบ้านร่ำลือว่ามีต้นหมากแตกกิ่งออกมามีรูปร่างคล้ายพญานาค ที่บ้านของนางบรรดา เลิศนภาสถาพร อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 2 บ้านด่านเก่า ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม ทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันแห่ไปดูและขอโชคลาภตามความเชื่อ 

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบบ้านหลังดังกล่าว มีต้นหมากที่ปลูกไว้บริเวณหน้าบ้าน แตกออกมาเป็น 3 ต้น ความสูงประมาณ 3 เมตร บริเวณโคนต้นห่างจากพื้นดินประมาณ 30 เซนติเมตร มีกิ่งใบแตกยอดออกมา แต่มีลักษณะผิดธรรมชาติ มีรูปร่างคล้ายหัวและหงอนพญานาค 2 ยอด ทำให้เจ้าของบ้านและชาวบ้านที่พบเห็น นำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้บูชารับโชค ตามความเชื่อของชาวอีสาน

จากการสอบถามนางบรรดา เจ้าของบ้านเล่าว่า ต้นหมากดังกล่าวตนปลูกไว้ มีอายุประมาณ 3 ปี ไม่เคยมีกิ่งแตกออกมาผิดธรรมชาติ จนกระทั่ง 2-3 วันที่ผ่านมา สังเกตเห็นว่ามียอดแตกออกมา แต่รูปร่างคล้ายพญานาค เรียกเพื่อนบ้านมาดู จนพากันแตกตื่น เพราะมีรูปร่างคล้ายหัวพญานาคมาก จึงพากันนำเครื่องมากราบไหว้บูชาตามความเชื่อชาวอีสาน เชื่อว่าเป็นอิทธิฤทธิ์พญานาค ที่มาปรากฏให้เห็นในช่วงใกล้เข้าพรรษาและมาให้โชคลาภ

ชาวบ้านแตกตื่นลูกหมูประหลาดตาเดียว มีงวงเหมือนช้างคล้ายพระพิฆเนศ




ชาวบ้านแตกตื่นลูกหมูประหลาดตาเดียว มีงวงเหมือนช้างคล้ายพระพิฆเนศ ต่างนำธูปเทียนมากราบไหว้ขอโชคและเลขเด็ด เชื่อเป็นเรื่องโชคดีทำให้หมู่บ้านร่มเย็นเป็นสุข...

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านจำนวนมากเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 60/3 บ้านเขาพนม หมู่ 8 ต.ป่าร่อน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านของนายดุรงค์ สุขแสน อายุ 40 ปี เพื่อไปดูและกราบไหว้ขอโชคลูกหมูประหลาดที่มีงวงเหมือนช้าง โดยนายดุรงค์ กล่าวว่า ลูกหมูตัวดังกล่าวเป็นพันธุ์พื้นบ้าน เกิดเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยแม่หมูได้คลอดลูกออกมาทั้งหมด 10 ตัว และ 1 ในนั้นมีลักษณะที่ผิดแปลกจากลูกหมูตัวอื่นโดยมีงวงงอกออกมาคล้ายกับงวงช้าง และมีตาเดียว โดยหลังจากเกิดออกมาได้ 1 วัน ลูกหมูตัวดังกล่าวก็ได้ตายไป จึงนำมาแช่น้ำแข็งเพื่อไม่ให้เน่า และต่อมาเมื่อชาวบ้านทราบข่าวจึงแห่กันมาดูและขอเลขเด็ด

สำหรับ ซากลูกหมูประหลาดดังกล่าวเป็นเพศเมีย ลำตัวเป็นสีเทา ขาทั้ง 4 ข้างสีขาว ดวงตามี 1 ดวงเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากลูกหมูคอกเดียวกัน นอกจากนั้น บริเวณเหนือปากไม่มีรูจมูก มีงวงคล้ายงวงช้างงอกขึ้นกลางหน้าผากและมีรูที่งวงคล้ายรูจมูก โดยชาวบ้านหลายคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าลูกหมูมีลักษณะคล้ายกับพระพิฆเนศ จึงได้นำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไว้บูชาเพื่อขอโชคลาภ

ขณะที่นายอะภร เพชรรักษ์ ผู้ใหญ่บ้านเขาพนม กล่าวว่า ลูกหมูดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับพระพิฆเนศ ซึ่งเกิดขึ้นในหมู่บ้านถือเป็นเรื่องโชคดี แต่ไม่อยากให้ชาวบ้านงมงายจนเกินไป โดยให้คิดว่าเขามาให้โชค มาปกปักษ์รักษาหมู่บ้านให้ร่มเย็นเป็นสุขก็เพียงพอแล้ว ส่วนใครจะขออะไรเป็นเรื่องความเชื่อของแต่ละคน.

วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แห่ตีเลขเด็ด พญานาคโผล่โคนต้นหมาก



แตกตื่น! พญานาคโผล่โคนต้นหมาก แห่ตีเลขเด็ด




ชาวตากฮือฮาต้นหมากประหลาด มีลักษณะคล้ายหัวพญานาค ข้างศาลพระเจ้าตากสินมหาราช ชาวบ้านแห่ตีเลขเด็ด
(30 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ต.หนองหลวง อ.เมือง จ.ตาก ชาวบ้านที่มาสักการะ ต่างแตกตื่นกับต้นหมากประหลาดที่อยู่บริเวณริม สระไอยรา ซึ่งตั้งอยู่ด้านทิศเหนือของอาคารศาลฯ โดยที่บริเวณโคนต้นหมากมีแขนงก้านใบหมากที่โผล่งอกขึ้นมา แต่มีลักษณะผิดจากปกติซึ่งจะต้องตั้งตรง โดยมีลักษณะคล้ายหัวพญานาค และหันหน้าไปทางสระน้ำที่ประดับเศียรช้าง
ทั้งนี้ชาวบ้านเชื่อกันว่า เป็นเจ้าพ่อองค์พญานาค ที่ต้องการปรากฏเพื่อให้โชคให้ลาภ และที่หันหน้าไปทางสระน้ำ ก็ต้องการที่จะลงไปในน้ำ และเตือนให้ชาวบ้านระวังภัยที่อาจเกิดจากน้ำ ซึ่งชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างก็มาจุดธูปขอพรให้ได้เลขเด็ด และขออำนาจบารมีของเจ้าพ่อองค์พญานาค ช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยไม่ให้เกิดน้ำท่วมเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งเลขเด็ดตามความเชื่อของนักเสี่ยงโชค ได้แก่ เลข 1, 5, 3 ,8

Ads

Ads